การขับถ่าย
การขับถ่ายนั้นสำคัญฉไน
ใครๆ ก็สามารถมีสุขภาพที่ดีได้ แต่สุขภาพที่ดีต้องดีมาจากภายใน เนื่องจากร่างกายของคนเรามีอวัยวะที่สำคัญอยู่หลายส่วนและทำงานผสานกันอย่างเป็นระบบ หากระบบใดระบบหนึ่งขัดข้อง ก็จะสะท้อนความผิดปกติออกมาสู่สุขภาพภายนอก
บอกเลยว่าน่ากลัวมาก! หากคุณไม่ขับถ่ายตอนเช้าเป็นประจำ
ในช่วงเวลา 05.00 – 07.00 น. เป็นเวลาของลำไส้ใหญ่ ถ้ายังไม่ยอมขับถ่ายอุจจาระ แล้วปล่อยเวลาให้เลยมาถึง 07.00-09.00 น. ซึ่งเป็นเวลาของกระเพาะอาหาร แล้วไม่ยอมกินข้าวเช้าอีก อุจจาระจากลำไส้ใหญ่ที่ไม่ได้ขับถ่ายออก จะถูกบีบตัวขึ้นมาจากลำไส้ใหญ่ ผ่านลำไส้เล็กขึ้นมาที่กระเพาะอาหาร ก็จะถูกดูดซึมอีกครั้ง ซึ่งในอุจจาระเก่าจะมีแก๊สที่เสียแล้ว เกิดจากการบูดเน่าโดยอุณหภูมิของร่างกายซึ่งมีความร้อน 37 องศาตลอดเวลา ไม่เหมือนกับตู้เย็นที่เก็บได้นานกว่า เพราะฉะนั้นแก๊สพิษเหล่านี้ จะถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด เลือดจึงไม่สะอาด ถ้าเลือดที่ไม่สะอาดไหลไปเลี้ยงส่วนต่างๆของรางกาย ไหลผ่านสมอง หัวใจ ปอด ม้าม ตับ ผิวหนัง ก็จะได้รับพิษจากแก๊สพิษด้วย
บอกเลยว่าน่ากลัวมาก! หากคุณไม่ขับถ่ายตอนเช้าเป็นประจำ
– ก่อนเที่ยงถึงบ่าย อาจจะง่วงนอน เพราะเลือดไม่สะอาดไปเลี้ยงหัวใจ หัวใจก็อ่อนล้า ไม่สดชื่น
– มีกลิ่นตัว กลิ่นปาก ก็มาจากเลือดที่ไม่สะอาดไปเลี้ยงปอด ปอดก็จะขับออกทางผิวหนังและลมหายใจ ตนเองจะไม่ค่อยได้กลิ่น แต่คนอื่นได้กลิ่น
– ถ้าปล่อยให้ไม่ขับถ่ายในช่วงเวลา 05.00-07.00 น. นานๆ เข้า เป็นระยะเวลาหลายปี เลือดที่ไม่สะอาดไหลผ่านไปเลี้ยงสมอง และไม่กินอาหารมื้อเช้าในช่วงเวลา 07.00-09.00 น. สมองก็จะไม่ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เมื่อแก่ตัวไปความจำจะเสื่อมเร็ว
– หรือปวดเข่าเมื่ออายุมาก และเป็นริดสีดวงทวาร
- วิธีแก้ไข
พยายามขับถ่ายในช่วง 05.00-07.00 น. ถ้าไม่ขับถ่าย ให้กินขมิ้นชันเพื่อบริหารลำไส้ ควรกินข้าวเช้าในทุกวันระหว่างเวลา 07.00-09.00 น
ท้องผูกเกิดจากอะไร
ภาวะท้องผูกเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักๆ ได้แก่
- การปฏิบัติตัวที่ไม่ถูกต้อง เช่น รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย ไม่ออกกำลังกายหรือไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย กลั้นอุจจาระบ่อยๆ ซึ่งผู้ที่มีอาการท้องผูกมากถึง 50% มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมหล่านี้
- การเบ่งถ่ายอุจจาระผิดวิธี แพทย์พบว่า 30% ของอาการท้องผูกเกิดจากการทํางานไม่ประสานกันของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการเบ่งอุจจาระ นั่นคือมีการออกแรงเบ่งพร้อมกับขมิบหูรูดทวารหนักไปด้วย เมื่อแรงเบ่งมีไม่มากพอที่จะเอาชนะแรงต้านบริเวณหูรูด อุจจาระก็ไม่สามารถจะเคลื่อนออกมาได้
- การทำงานของลำไส้ใหญ่ผิดปกติ หรือภาวะลำไส้เฉื่อย เป็นการที่ลำไส้ใหญ่เคลื่อนไหวน้อยลงทําให้อุจจาระเคลื่อนลงมาช้ากว่าปกติ ซึ่งจะทราบได้จากการตรวจดูการเคลื่อนผ่านของอุจจาระภายในลำไส้ใหญ่ (colonic transit time) โดยให้ผู้ป่วยกลืนเม็ดยาที่มีแถบทึบแสง (sitzmark radiopaque markers) หลังจากนั้น 3 และ 5 วันจึงเอ็กซ์เรย์ดูจำนวน markers ที่เหลืออยู่ในลำไส้ใหญ่ ถ้ายังกระจายอยู่ทั่วไปแสดงว่าลำไส้ทำงานผิดปกติ อย่างไรก็ตาม สาเหตุนี้พบได้น้อยมาก คือ 5-6% เท่านั้น
- การใช้ยาบางชนิดที่ทำให้ท้องผูก เช่น ยารักษาอาการซึมเศร้า ยารักษาโรคพวกพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ ยาลดความดันโลหิต ยาลดกรดที่มีส่วนผสมของแคลเซียม หรืออะลูมิเนียม ยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของมอร์ฟีน เป็นต้น




เว็บไซต์ สั่งซื้อออนไลน์ง่ายๆ
www.squaralipzthailand.com
ช่องทาง Line : @Lipzthailand หรือ Lipzthailand
priligy dapoxetine online drugstore